พลิกโฉมธุรกิจคลินิกเสริมความงาม ใช้ LINE เพิ่มยอดขาย สร้างความภักดี

2 Apr 2025

อุตสาหกรรมเสริมความงามในไทยเติบโตต่อเนื่อง ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น ส่งผลให้คลินิกเสริมความงามขยายตัวอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้น ธุรกิจจึงต้องมีกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าและใช้เทคโนโลยีสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า เพื่อเพิ่มความภักดีของลูกค้า LINE เห็นถึงโอกาสและความท้าทายนี้ จึงจัดงาน “LINE FOR BUSINESS: EMPOWERING AESTHETIC CLINICS WITH HOLISTIC SOLUTIONS” 


โดยมีเหล่าผู้เชี่ยวชาญจาก LINE ประเทศไทย นำโดย กีรติ อนุรักษ์ภราดร หัวหน้าที่ปรึกษาธุรกิจสุขภาพและความงาม พร้อมคณะ มาร่วมแบ่งปันเทรนด์ธุรกิจและแนะนำการใช้โซลูชัน เครื่องมือต่างๆ บนแพลตฟอร์ม LINE เพื่อยกระดับการบริการและเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจเสริมความงามในยุคดิจิทัล

 

บริการได้ตรงจุด สื่อสารได้ตรงใจ


ปัจจุบัน LINE Official Account หรือ LINE OA กลายเป็นช่องทางที่มีศักยภาพสูงในการเข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย ตัวเลขจาก LINE ชี้ว่าธุรกิจเสริมความงามใช้ LINE OA ส่งข้อความแบบบรอดคาสต์สื่อสารกับลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 23% ในขณะที่การส่งข้อความแบบเฉพาะกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นถึง 116% และมีการเชื่อมต่อ API เพื่อทำการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบ Personalize เพิ่มขึ้นถึง 74%


จะเห็นได้ว่าธุรกิจคลินิกเสริมความงามในไทยมีแนวโน้มที่จะสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญทำให้ทั้งยอดขายและความภักดีต่อแบรนด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย LINE ได้แบ่งกลุ่มลูกค้าที่มีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์บน LINE OA ออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ เพื่อให้แบรนด์สามารถใช้เครื่องมือต่าง ๆ บน LINE สร้างโอกาสในการขายและสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดังนี้

1)กลุ่มไม่เปิดข้อความ ธุรกิจควรปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มโอกาสในการเปิดอ่านและสร้างความสนใจ โดยปรับปรุงข้อความให้น่าสนใจและกระตุ้นพฤติกรรม เช่น “โปรโมชันพิเศษ 24 ชั่วโมงเท่านั้น!” หรือ “จองตอนนี้รับส่วนลดพิเศษ!” นอกจากนี้ การเลือกช่วงเวลาส่งข้อความที่เหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีการใช้งานหนาแน่น (9.00-12.00 น.) และใช้ช่องทางการลงโฆษณาบน LINE อย่าง LINE Ads เพื่อทำ Retargeting ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่เปิดข้อความ ก็เป็นอีกกลยุทธ์น่าสนใจ โดยแบรนด์สามารถ Exclude Audience ตัดกลุ่มเป้าหมายผู้ที่เคยเห็นข้อความเดิมแล้วออกไปได้ ช่วยเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ได้มากขึ้น

 

2)กลุ่มที่เปิดข้อความแต่ไม่คลิก ธุรกิจควรใช้กลยุทธ์การส่งข้อความแบบหลากหลาย เพื่อเปิดทางเลือก หาสิ่งที่ลูกค้าสนใจ เช่น การแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือนำเสนอโปรโมชันพิเศษที่กระตุ้นให้คลิก นอกจากนี้ ฟีเจอร์ ‘ริชเมนู’ บน LINE OA สามารถเป็นช่องทางเสริมที่ช่วยดึงดูดความสนใจ แบรนด์สามารถออกแบบริชเมนูให้ทำหน้าที่เป็น Signage บน LINE OA แสดงข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชันและรีวิวจากลูกค้าได้ หรือเป็น Billboard เพื่อโปรโมตแพ็กเกจบริการที่น่าสนใจ โดยแทรกปุ่มกดสำหรับลูกค้าที่ต้องการแชตพูดคุย เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเริ่มการสนทนา โดย LINE พบว่าริชเมนูที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี สามารถเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วมจากลูกค้าได้เพิ่มขึ้นถึง 142% 

 

3)กลุ่มที่เปิดและคลิกข้อความ ถือเป็นกลุ่มที่มีโอกาสสูงในการเปลี่ยนเป็นลูกค้าที่ซื้อจริง จึงควรนำเสนอคอนเทนต์รีวิวจากลูกค้าที่ใช้จริงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ นอกจากนี้ การนำเสนอข้อเสนอพิเศษและโปรโมชันใหม่ที่เกี่ยวข้องกับบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าสนใจ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำหรือสมัครบริการเพิ่มเติมได้ อีกทั้ง ธุรกิจควรติดตั้ง LINE Tag เครื่องมือสำหรับติดตามเก็บข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้านอกแพลตฟอร์ม LINE เช่น การลิงก์ไปยังเว็บไซต์ แล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับใช้กับแคมเปญโฆษณาในอนาคต เพื่อเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

 

4) กลุ่มที่เปิดและเริ่มแชต ถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงสุด เนื่องจากลูกค้าแสดงความสนใจและเริ่มต้นการสนทนา ธุรกิจเสริมความงามสามารถใช้ Chat Tag เพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรม ทั้งกลุ่มที่ยังไม่ซื้อ เช่น ลูกค้าที่สนใจจากโปรโมชัน หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสินค้า ซึ่งธุรกิจควรส่งข้อเสนอพิเศษหรือข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์ความกังวลของลูกค้าให้ และ กลุ่มที่ซื้อแล้ว เช่น ลูกค้าใหม่ ลูกค้าซื้อซ้ำ ธุรกิจสามารถนำข้อมูลการซื้อไปใช้เสนอแพ็กเกจ VIP หรือแจ้งเตือนซื้อบริการเพิ่มตามระยะเวลาที่เหมาะสม หรือบริการเสริมที่เกี่ยวข้องได้ และยังสามารถใช้ LINE Ads ในการทำ Cross-Selling หรือ Upselling เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ไม่เพียงแค่นั้น ธุรกิจคลินิกเสริมความงามยังสามารถยกระดับประสบการณ์เฉพาะบุคคลด้วยการเชื่อมต่อ LINE API เข้ากับ LINE OA ของแบรนด์เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า โดยเฉพาะ LINE User ID ทำให้แบรนด์ระบุตัวตนลูกค้าบน LINE OA ได้ เพื่อจัดการจำแนกกลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมเชิงลึก นำมาสู่การสื่อสารข้อมูลหรือโปรโมชันที่ตรงกลุ่ม ตรงใจ ทั้งในเชิงการนำเสนอข้อมูลผ่านริชเมนู และข้อความที่สื่อสารออกไปให้เฉพาะแต่ละบุคคล 

 

สร้างความสัมพันธ์ไม่หยุด เดินกลยุทธ์บริหารลูกค้าได้อย่างมั่นใจ

 

หนึ่งในเครื่องมือมาแรงบน LINE ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาวบน LINE ได้คือ MyCustomer | CRM ระบบสมาชิกและสะสมแต้มบน LINE OA ที่กลุ่มธุรกิจคลินิกเสริมความงามมีการใช้งานเติบโตอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นถึง 23% ในปีที่ผ่านมา ด้วยความสามารถในการเก็บข้อมูลลูกค้าตั้งแต่เริ่มสมัครสมาชิก ทำให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์เชิงลึกและพัฒนาแคมเปญได้อย่างแม่นยำ ระบบยังมีความยืดหยุ่นในการสะสมแต้ม ลูกค้าสามารถสะสมแต้มทั้งจากหน้าร้านและจากช่องทางออนไลน์ เพิ่มความสะดวกและลดอัตราการบล็อก LINE OA ให้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ MyCustomer | CRM ไม่เพียงช่วยรักษาฐานลูกค้าเดิมผ่านการสะสมแต้มเพื่อนำไปแลกรางวัลเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ ผ่านการแจกคะแนนให้ลูกค้าใหม่เมื่อสมัครเป็นสมาชิกผ่านปุ่มในริชเมนูบน LINE OA ได้ทันใจ ลูกค้าลงทะเบียนพร้อมรับคะแนนได้ง่าย สะดวกกว่าเดิม 

 

เปิดโอกาสการขาย เพิ่มยอดได้ตลอดวัน

 

ในธุรกิจคลินิกเสริมความงาม ลูกค้ามักต้องการข้อมูลที่ครบถ้วนและสะดวกต่อการตัดสินใจ ระบบที่สามารถตอบโจทย์ทั้งในเชิงข้อมูลและการซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะช่วยขยายฐานลูกค้าและเพิ่มโอกาสปิดการขายได้เป็นอย่างดี MyShop เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือเสริมประสิทธิภาพ LINE OA ในการจัดการร้านค้าออนไลน์แบบมืออาชีพ ข้อมูลจาก LINE พบว่าการใช้ LINE OA คู่กับ MyShop ช่วยทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นถึง 28% MyShop จึงถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือจำเป็นในการทำธุรกิจแบบ Chat Commerce สำหรับธุรกิจนี้

 

จุดเด่นสำคัญของ MyShop คือการทำหน้าที่เป็นหน้าร้านออนไลน์เปิด 24/7 ให้ลูกค้าสามารถชมและซื้อสินค้าได้ด้วยตนเองตลอดเวลา ธุรกิจสามารถนำลิงก์ของหน้าร้านออนไลน์จาก MyShop ไปวางในข้อความทักทายหรือริชเมนูบน LINE OA เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย พร้อมฟีเจอร์อีกหลากหลายที่ช่วยธุรกิจปิดการขายได้ง่ายขึ้น อาทิ ระบบจัดการสต๊อคสินค้า ระบบจัดการการชำระเงินที่สะดวกสบาย สรุปยอดออร์เดอร์ส่งให้ลูกค้าในหน้าแชตได้ ลูกค้าสามารถกดปุ่มชำระเงินได้ทันที วิธีการนี้เพิ่มการตัดสินใจซื้อได้ถึง 15 เท่า และมีอัตราการทำรายการสำเร็จมากถึง  97% 


อีกทั้งยังมี  MyShop Seller Center แดชบอร์ดสำหรับผู้ขาย ให้เห็นถึงตัวเลขยอดขาย  สินค้ายอดนิยมโปรโมชันที่ได้รับความสนใจ แบรนด์สามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนการขายในอนาคตได้ และที่สำคัญ แบรนด์สามารถเก็บข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าบน MyShop นำมาจัดกลุ่มได้ อาทิ กลุ่มเข้าดูแต่ยังไม่ซื้อ กลุ่มเข้าดูและเลือกซื้อแต่ยังไม่ตัดสินใจ หรือกลุ่มเข้าดูและซื้อสินค้าแล้ว ฯลฯ นำมาใช้ในการทำ Retargeting ส่งข้อความบรอดคาสต์เฉพาะบุคคลหรือยิงโฆษณาเพื่อกระตุ้นการขายได้ต่อเนื่อง 

 

เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ เพิ่มยอดขายได้ก้าวกระโดด

 

อีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม คือ LINE Ads ระบบการลงโฆษณาบน LINE ซึ่งกลุ่มธุรกิจคลินิกเสริมความงามมีการใช้จ่ายบน LINE Ads เพิ่มขึ้นถึง 28% ในปีที่ผ่านมา วัตถุประสงค์หลักที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ การเพิ่มเพื่อน (Add Friends) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 75% ของการใช้งาน LINE Ads ทั้งหมด โดยผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำการใช้งาน LINE Ads ภายใต้กลยุทธ์ 2Ms+2Es ดังนี้

 

2Ms ได้แก่ MEET คือการเข้าถึงลูกค้าด้วยวัตถุประสงค์โฆษณาที่ถูกต้อง เช่น วัตถุประสงค์ ‘เพิ่มเพื่อน’ เพื่อเข้าถึงผู้ที่สนใจเกี่ยวกับแบรนด์ เหมาะสำหรับการเพิ่มจำนวนผู้ติดตามใน LINE OA ในขณะที่วัตถุประสงค์ ‘Website Conversion’ จะใช้เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนชอบช้อปออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสการสร้างยอดขายหรือการช้อปบนเว็บไซต์ และ MAXIMIZE คือการเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาด้วยการเลือกใช้กลุ่มเป้าหมายหลัก (Core Audiences) ร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง (Custom Audience) โดย LINE พบว่า การใช้กลุ่มเป้าหมายร่วมกันดังกล่าว จะช่วยเพิ่มอัตราการคลิก (CTR) ได้ถึง 42% เมื่อเทียบกับการใช้ Core Audiences เพียงอย่างเดียว


ปัจจุบัน LINE มีการขยายกลุ่มเป้าหมายหลักให้มีความหลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น ทั้งในด้านประชากรศาสตร์ พฤติกรรม และกลุ่มผู้ใช้งานบนบริการต่าง ๆ ของ LINE ที่ล่าสุด LINE Ads ได้เพิ่มบริการอื่น ๆ ให้ธุรกิจได้เลือกกลุ่มเป้าหมายได้กว้างมากกว่าเดิม ครอบคลุมไปยังผู้ใช้งาน LINE STICKERS, LINE Melody, LINE ดูดวง และ LINE TODAY เป็นต้น 

2Es ได้แก่ ENHANCE คือการเพิ่มศักยภาพดาต้าหรือข้อมูลลูกค้าด้วยกลยุทธ์ Cross-Targeting เน้นการใช้ข้อมูลจากหลายช่องทางเพื่อสร้างการเข้าถึงที่แม่นยำยิ่งขึ้น โดยสามารถทำได้ผ่าน Business Manager เครื่องมือช่วยรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าจากช่องทางหรือโซลูชันอื่นใน LINE เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งจาก LINE Ads, Smart Channel และ LINE OA รวมไปถึงจากเครื่องมือที่เชื่อมต่อกับ LINE OA อยู่ เช่น MyShop และ MyCustomer | CRM ช่วยให้แบรนด์สามารถนำข้อมูลที่รวบรวมได้มาใช้เพื่อออกแบบหรือปรับแต่งการโฆษณาและเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น กลยุทธ์นี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์และใช้ข้อมูลจากหลายช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า และเพิ่มอัตรา Conversion ได้เป็นอย่างดี 

 

EMPOWER คือการเพิ่มพลังชิ้นงานโฆษณาให้มีประสิทธิภาพ ด้วยการสร้างเนื้อหาที่สามารถดึงดูดความสนใจและเพิ่มอัตราการคลิก (CTR%) ได้สูงขึ้น โดยวิดีโอขนาด 9:16 และภาพขนาด 1,080 x 1,080 พิกเซล ถือเป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับโฆษณาบน LINE เพิ่มความสนใจจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ LINE ยังได้ย้ำถึง 5 องค์ประกอบสำคัญของชิ้นงานโฆษณา คือ 1) ข้อความที่ชัดเจน เห็นแล้วเข้าใจง่าย 2) มี Call to Action กระตุ้นให้เกิดการกระทำที่เข้าถึงได้สะดวก 3) ภาพของสินค้าที่ควรตรงปก ไม่เกินจริงจนเกินไป 4) นำเสนอรีวิวจากลูกค้า เช่น ภาพก่อนและหลังใช้บริการ ให้ลูกค้ามั่นใจ และ 5) กระตุ้นการตัดสินใจซื้อด้วยโปรโมชันที่มีระยะเวลาจำกัด 

 

ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้น ธุรกิจที่สามารถปรับตัวและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างชาญฉลาดจะเป็นผู้ที่รักษาความได้เปรียบในตลาดและสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนในระยะยาว LINE ได้พัฒนาโซลูชันครบวงจรที่สามารถประยุกต์ใช้ได้กับธุรกิจคลินิกเสริมความงามและโรงพยาบาลได้ ช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับและตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ธุรกิจคลินิกเสริมความงามที่สนใจ สามารถศึกษาเนื้อหารายละเอียดการใช้งาน LINE เพิ่มเติมในรูปแบบ Playbook ฉบับเต็มได้ที่ https://lin.ee/9JFZjfG หรือสามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อติดต่อสอบถามทีมที่ปรึกษาธุรกิจองค์กร LINE ประเทศไทย

find me on socials

Find us on Facebook

NEWS UPDATE