อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน ครั้งที่ 7 สร้างประวัติศาสตร์! สมเด็จพระนางเจ้าฯ ร่วมวิ่งกับตำนานมาราธอน ”เอเลียด คิปโชเก”
วิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก ครั้งที่ 7 ประจำปี 2567 "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก พรีเซ็นต์บาย โตโยต้า ครั้งที่ 7" ปิดฉากสุดประทับใจ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จร่วมวิ่งกับ "เอเลียด คิปโชเก" ตำนานนักวิ่งมาราธอนโลก แชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2 สมัยชาวเคนยา ยืนยัน ปีหน้ากลับมาสร้างความสุขให้กับแฟนกีฬาชาวไทยอีกครั้ง
การแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก ครั้งที่ 7 ประจำปี 2567 รายการ "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก พรีเซ็นต์บาย โตโยต้า ครั้งที่ 7" ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ชิงเงินรางวัลรวม 2,440,500 บาท เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา โดยปีนี้มีนักวิ่งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมมากถึง 33,000 คน ซึ่งทั้ง 3 ระยะ มีจุดเข้าเส้นชัย ณ ท้องสนามหลวง
ในการนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมวิ่งในระยะ 10 กม. นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยมี นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และเหล่านักวิ่งเฝ้ารับเสด็จ
ไฮไลต์สำคัญของการจัดงานในปีนี้อยู่ที่ เอเลียด คิปโชเก ตำนานนักวิ่งมาราธอนโลก เจ้าของสถิติวิ่งมาราธอนได้ต่ำกว่า 2 ชม. และแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2 สมัยชาวเคนยา ในฐานะ "ฑูตด้านการท่องเที่ยวกีฬาและวัฒนธรรม" ของประเทศไทย ซึ่ง คิปโชเก และ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้ร่วมวิ่งกับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในระยะ 10 กม.ด้วย ท่ามกลางแฟนคลับที่มารอเชียร์และต้อนรับอย่างอบอุ่น
การถ่ายทอดสดงานนี้ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกผ่านทาง Thai PBS ทำให้แฟนกีฬาทั่วโลกสามารถติดตามความสนุกสนานนี้ได้
ผลการแข่งขันทั้ง 3 ระยะ มีดังนี้ :
ประเภทมาราธอน (42.195 กม.) (ชาย)
- อันดับ 1 ทาริคู อับดี (เอธิโอเปีย) เวลา 2:16:42 ชม.
- อันดับ 2 อาลี อับดอช (เอธิโอเปีย) เวลา 2:17:52 ชม.
- อันดับ 3 เทสฟาเย เซกาเย จากเอธิโอเปีย เวลา 2.18.42 ชม.
ประเภทมาราธอน (42.195 กม.) (หญิง)
- อันดับ 1 เซกา เดสตา (เอธิโอเปีย) เวลา 2:43:38 ชม.
- อันดับ 2 เยเชียมเบ็ต ทาโซ (เอธิโอเปีย) เวลา 2:43:59 ชม.
- อันดับ 3 ซูอัด คาบูเชีย จากโมร็อกโก เวลา 2.44.51 ชม.
ส่วนนักกีฬาไทย ที่ทำผลงานได้ดีที่สุด ฝ่ายชาย อันดับ 1 ได้แก่ ณัฐวุฒิ อินนุ่ม เวลา 2.28.14 ชม.
ฝ่ายหญิง ได้แก่ อรอนงค์ วงศ์ศร เวลา 2.52.27 ชม.
ประเภทฮาล์ฟมาราธอน (21.1 กม.) (ชาย)
- อันดับ 1 เคนเนดี เอ็นโจกู มูเฮีย จากเคนยา เวลา 1:03:44 ชม.
- อันดับ 2 มูเฮีย อเล็กซานเดอร์ เอ็นจาย จากเคนยา เวลา 1:04:32 ชม.
- อันดับ 3 เฟกาดู เทสฟาเย จากเอธิโอเปีย เวลา 1.06.10 ชม.
ประเภทฮาล์ฟมาราธอน (21.1 กม.) (หญิง)
- อันดับ 1 คาว์ทาร์ กาห์ฮาซ จากโมร็อกโก เวลา 1.15.24 ชม.
- อันดับ 2 ฮาเจอร์ เบอร์เฮ จากเอธิโอเปีย เวลา 1.16.29 ชม
- อันดับ 3 ฮานาเน บูกกาด จากโมร็อกโก เวลา 1.16.49 ชม.
ประเภท 10 กม. (ชาย)
- อันดับ 1 คีริน ตันติเวทย์ จากประเทศไทย เวลา 29:06 นาที
- อันดับ 2 เคนเนดี เอ็นโจกู มูเฮีย จากเคนยา เวลา 30:02 นาที
- อันดับ 3 ครีสซ์ตอฟ ฮาดาส จากโปแลนด์ เวลา 30.11 นาที
ประเภท 10 กม.(หญิง)
- ฮาเจอร์ เบอร์เฮ จากเอธิโอเปีย เวลา 36.38 นาที
- อันดับ 2 ลินด์ซีย์ ฟราเซอร์ จากสหราชอาณาจักร เวลา 38.14 นาที
- อันดับ 3 เปรมกมล วงศ์วิชัย จากประเทศไทย เวลา 38.30 น.
การแข่งขันในปีนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้นให้กับนักกีฬาและแฟนกีฬาทุกคน แต่ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทยไปสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ และก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างชาวไทยและชาวต่างชาติ ปีหน้าคอยติดตามความสนุกสนานแบบนี้อีกครั้ง เพราะเอเลียด คิปโชเก จะกลับมาร่วมสร้างประสบการณ์วิ่งที่ไม่เหมือนใครในประเทศไทยอย่างแน่นอน