บ๊อช วางกลยุทธ์ ปี 2573 มุ่งมั่นก้าวสู่เป้าหมายที่ท้าทายยิ่งขึ้น

11 May 2025

บ๊อช ประเทศไทย ยืนหยัดและเติบโตท่ามกลางเศรษฐกิจที่ผันผวน ด้วยแนวคิดที่ผสาน นวัตกรรมอัจฉริยะ และ กลยุทธ์ความยั่งยืนเข้าด้วยกัน เราไม่ได้แค่ปรับตัว...แต่ปรับเกม เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรม พัฒนาธุรกิจ และเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตร


กลุ่มบริษัท บ๊อช มุ่งมั่นเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ปี พ.ศ. 2573 เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ แม้ว่าปัจจัยทางการตลาดจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตในปีที่ผ่านมา โดยในปี พ.ศ. 2567 บ๊อช ผู้ผลิตและให้บริการด้านเทคโนโลยีมีรายได้จากยอดขายลดลงร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หรือลดลงร้อยละ 0.5 หลังปรับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน และกำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษีจากการดำเนินงานอยู่ที่ 3.1 พันล้านยูโร หรือ ร้อยละ 3.5 (ปี พ.ศ. 2566: 4.8 พันล้านยูโร)


สเตฟาน ฮาร์ตุง ประธานคณะกรรมการบริหารของ Robert Bosch GmbH กล่าวว่า “สำหรับผลประกอบการปี พ.ศ. 2567 เราประสบความสำเร็จในการปรับปรุงส่วนสำคัญด้าน ต้นทุน โครงสร้าง และพอร์ตธุรกิจ เรายังคงตั้งเป้าหมายที่ท้าทายเพื่อการเติบโตและเสริมความแข็งแกร่งเพื่ออิสระภาพทางการเงินของบริษัท กลยุทธ์ ปี พ.ศ. 2573 ช่วยให้เรามีทิศทางที่ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่โลกเผชิญกับความผันผวนเพื่อก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในสามผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลก ภายในไม่เกินห้าปีข้างหน้า”


กลยุทธ์ขององค์กรสะท้อนให้เห็นเป้าหมายทางการเงินของบ๊อช ด้วยเช่นกัน ภายใต้ภาวะปกติของค่าเงินเฟ้อที่อัตราระหว่างร้อยละ 2 ถึง ร้อยละ 3 นั้น บ๊อช ตั้งเป้าหมายการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ระหว่างร้อยละ 6 ถึง ร้อยละ 8 จนถึงปี พ.ศ. 2573 ในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2568 บ๊อช สามารถเพิ่มยอดขายเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ถึงร้อยละ 4 ทั้งในสกุลเงินยูโรและปรับตามผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน กลุ่มบริษัทบ๊อช ยังคงตั้งเป้าอัตรากำไรที่ร้อยละ 7 ภายในปี พ.ศ. 2569 โดย ฮาร์ตุง เสริมว่า การตั้งเป้าหมายนี้เป็นภารกิจที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับภาวการณ์ในปัจจุบันที่มีความผันผวนทั่วโลก และที่สำคัญคือการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นในแถบเอเชีย “เราจะยังคงดำเนินงานอย่างเข้มงวดในการควบคุมต้นทุนและโครงสร้างขององค์กร พร้อมมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้”


ส่งเสริมนวัตกรรม: ลงทุนกว่า 250 ล้านยูโรกับสตาร์ทอัพ


บ๊อช อาศัยจุดแข็งด้านนวัตกรรม เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จจากการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจและเทคโนโลยีในปัจจุบัน “ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก เรามุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะใช้จุดแข็งของเราอย่างกล้าหาญ โดยเฉพาะความสามารถด้านนวัตกรรมขั้นสูง” ฮาร์ตุงกล่าว “สิ่งนี้จะเปิดโอกาสมากมายให้เราในอนาคต แม้ในภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย” ในปีที่ผ่านมาเพียงปีเดียว บ๊อช ได้จดสิทธิบัตรมากกว่า 6,700 รายการ ทำให้บริษัทได้รับการจัดอันดับโดย นักวิเคราะห์จาก Clarivate ว่าเป็นหนึ่งใน 100 บริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก บ๊อช เล็งเห็นศักยภาพจากการร่วมมือกับสตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการเติบโต ในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทร่วมลงทุนรายใหญ่ที่สุดในยุโรป


กลุ่มบริษัทบ๊อช ได้ประกาศบริษัทร่วมทุนใหม่ โดยบริษัทในเครือ Bosch Ventures ที่จะจัดสรรเงินทุนกว่า 250 ล้านยูโร “การลงทุนในสตาร์ทอัพช่วยผลักดันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทั้งในภาคธุรกิจและสังคม ขณะเดียวกันยังเป็นประโยชน์ต่อหน่วยธุรกิจของเราเองด้วย” ประธานบ๊อชกล่าว พร้อมอธิบายถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการลงทุนธุรกิจการร่วมลงทุนกลุ่มสตาร์ทอัพ “นวัตกรรมยังเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศด้วยเช่นกัน”


ความยั่งยืน: เป้าหมายใหม่ของ CO2 แม้จะมีความผันผวนทางเศรษฐกิจทั่วโลก


เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมทั้งหลาย บ๊อช ก็กำลังเผชิญกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจโลก “ขณะนี้เรากำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ขณะที่การค้าเสรีในเศรษฐกิจโลกกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล” ฮาร์ตุงกล่าว ภายใต้สถานการณ์ของรัฐบาลใหม่ในเยอรมนี ฮาร์ตุงเน้นย้ำว่า นโยบายการคลังที่ก่อหนี้ไม่ได้ช่วยให้รอดพ้นนอกจากการออมเงินให้ได้มากที่สุด “ควรเจาะจงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าการลงทุนหลายพันล้านในการวางแผนปฏิรูป” ฮาร์ตุงเสริม กลุ่มบริษัทบ๊อชได้เน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นว่า แม้จะมีความผันผวนทั่วโลก แต่การดำเนินการด้านฟื้นฟูสภาพภูมิอากาศต้องไม่ถูกละเลย โดยประกาศเป้าหมายใหม่ใน Scope 3 ซึ่งฮาร์ตุงอธิบายว่า การลดการปล่อยคาร์บอนที่อยู่นอกเหนือการควบคุมโดยตรงของบ๊อช เช่น จากการใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหลือน้อยที่สุด ภายในปี พ.ศ. 2573


ไม่ว่าจะมีเป้าหมายการเติบโตอย่างไร บ๊อช มีเจตจำนงในการปรับเพิ่มเป้าหมายในการลด CO2 เป็นสองเท่าจากร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2561[1] ฮาร์ตุงชี้ให้เห็นว่า “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะไม่ลืมเลือนไปเพียงเพราะเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายอื่นๆ ความยั่งยืนยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบ๊อช”


การพัฒนาธุรกิจในประเทศไทย


แม้เศรษฐกิจจะเผชิญกับความท้าทาย แต่บ๊อช ประเทศไทย ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี พ.ศ.  2567 โดยมียอดขายสุทธิรวม 656.88 ล้านยูโรในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงยอดขายของบริษัทที่ไม่ได้รวมอยู่ในงบการเงินรวมและยอดขายภายในให้กับบริษัทในเครือ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 จากปีก่อน ยอดขายรวมให้กับบุคคลภายนอกในปี พ.ศ. 2567 อยู่ที่ 457 ล้านยูโร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บ๊อช ประเทศไทย มีพนักงานมากกว่า 1,600 คน ซึ่งตอกย้ำบทบาทของบริษัทในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจในท้องถิ่น


“การลงทุนอย่างต่อเนื่องของเราในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของบ๊อชในศักยภาพการเติบโตของประเทศและความมุ่งมั่นของเราในการขับเคลื่อนนวัตกรรมในระดับท้องถิ่น โดยการจัดทำแนวทางการดำเนินงานทางธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน เรากำลังสร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อความสำเร็จระยะยาวในทุกภาคส่วนธุรกิจ” โจเซฟ ฮง กรรมการผู้จัดการ บ๊อช ประเทศไทยกล่าว


ในปี พ.ศ. 2567 บ๊อช ประเทศไทย ยังคงเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาคธุรกิจยานยนต์ผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึงการขยายสายการผลิตหม้อลมเบรกที่โรงงานของบ๊อชในนิคมฯ อมตะ รวมถึงการเพิ่มสายการผลิตหัวฉีดและคอนเนกเตอร์ ที่โรงงานของบ๊อชในนิคมฯ เหมราช ศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทในระยองยังคงเป็นสินทรัพย์สำคัญ โดยมีผู้เชี่ยวชาญและผู้ชำนาญการที่มีขอบข่ายความรับผิดชอบทั่วโลก เพื่อตอบสนองงานบริการให้กับให้กับลูกค้าทั้งภายในและภายนอก สำหรับธุรกิจอะไหล่รถยนต์ บ๊อช มุ่งเน้นที่การพัฒนาเครือข่ายการจัดจำหน่ายและเพิ่มการเข้าถึงการฝึกอบรมผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์


ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคเติบโตอย่างโดดเด่นในปีที่ผ่านมา โดย Bosch Home Appliances ขยายฐานลูกค้าด้วยการเปิดร้านเรือธงในทำเลค้าปลีกสำคัญๆ เช่น เซ็นทรัลพระรามเก้า เซ็นทรัลเวสต์เกต และอิตัลไทยทาวเวอร์ เพื่อมอบประสบการณ์สัมผัสใกล้ชิดกับผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ กลุ่มเครื่องมือไฟฟ้ายังเพิ่มศักยภาพในการให้บริการด้วยการเปิดตัวศูนย์บริการแห่งใหม่เพื่อยกระดับการบริการหลังการขายและความพึงพอใจของลูกค้า

ในภาคธุรกิจเทคโนโลยีอุตสาหกรรม บ๊อช เร็กซ์รอธ ประเทศไทย ได้เสริมบทบาทในภูมิภาคด้วยการจัดตั้งศูนย์ความเชี่ยวชาญที่มุ่งเน้นด้านการบริการระบบขับเคลื่อนและมอเตอร์ไฟฟ้า ศูนย์กลางเชิงกลยุทธ์แห่งนี้จะช่วยเพิ่มการสนับสนุนให้กับลูกค้าทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียด้วยการให้บริการบำรุงรักษา การวินิจฉัย และการซ่อมแซมโดยผู้เชี่ยวชาญ


บ๊อช ประเทศไทยลงนามบันทึกความเข้าใจกับกลุ่มบริษัทซีพี ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำของไทย โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มภายใต้กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานและอาคาร เพื่อสำรวจแนวทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืนสำหรับระบบหม้อไอน้ำอุตสาหกรรม โดยเน้นที่การลดการปล่อยคาร์บอนและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน


ในปี พ.ศ. 2567 บ๊อช ประเทศไทย ได้เข้าร่วมโครงการ SDG Accelerator Program ของ UNGCNT ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของบริษัท ได้เป็นอย่างดี บริษัท ยังคงนำแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลและโซลูชันนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โครงการต่างๆ เช่น โครงการอ่างเก็บน้ำ การลดขยะ และการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมเป็นตัวอย่างของแนวทางดังกล่าว นอกจากนี้ บ๊อชยังให้การสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นผ่านโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรต่างๆ รวมถึงงานวิ่งการกุศล การบริจาคเงินเพื่อบรรเทาทุกข์จากอุทกภัยให้กับสภากาชาดไทย และความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับ Primavera ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลของพนักงานบ๊อช เพื่อให้การสนับสนุนระยะยาวแก่มูลนิธิ Hand to Hand ในชลบุรีและมูลนิธิ Skills for Life ในเชียงใหม่


ข่าวไฮไลท์

find me on socials

Find us on Facebook

NEWS UPDATE