ซุปเปอร์ริช 1965 (สีส้ม) ฉลอง 60 ปี ยกระดับสู่ดิจิทัล เปิดตัว ‘น้องซุปเปอร์’ เจาะใจคนรุ่นใหม่ รุก e-Wallet ดันยอดแลกเงินทะลุแสนล้าน
SmarketterThailand – ซุปเปอร์ริช 1965 (สีส้ม) ฉลอง 60 ปี เปิดตัวมาสคอต “น้องซุปเปอร์”เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เตรียมรุกบริการ e-Wallet รองรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตั้งเป้าเติบโต 20% คาดยอดแลกเงินทะลุ 100,000 ล้านบาท
ซุปเปอร์ริช 1965 (สีส้ม) ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ1 ด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของไทย ฉลองครบรอบ 60 ปี ภายใต้แนวคิด “60 Years of Trust, Moving Forward Together” เปิดตัวมาสคอต “น้องซุปเปอร์” ในฐานะเพื่อนร่วมทาง สะท้อนภาพลักษณ์ทันสมัย เข้าถึงนักเดินทางรุ่นใหม่ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจสู่ดิจิทัลเชื่อมทุกช่องทางบริการทั้งสาขาและออนไลน์ เตรียมเปิด e-Wallet รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มุ่งยกระดับประสบการณ์แลกเงินให้รวดเร็ว ปลอดภัย ตั้งเป้าเติบโต 20% และยอดแลกเงินทะลุ 100,000 ล้านบาทภายในปี 2570

นายปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด หรือ “ซุปเปอร์ริช 1965 (สีส้ม)” ผู้บริหารรุ่นที่ 2 เปิดเผยในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งความเชื่อมั่น ภายใต้แนวคิด “60 Years of Trust, Moving Forward Together” ว่า เส้นทางสู่ความสำเร็จของซุปเปอร์ริช 1965 (สีส้ม) ในฐานะ ผู้นำอันดับ 1 ด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของไทย (No.1 Currency Exchange)
ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนอกระบบธนาคาร (Non-bank Foreign Exchange Service) เริ่มต้นจากร้านแลกเงินเล็ก ๆ ของครอบครัว ในนาม ‘จิตวานิช’ ต่อมา คุณพ่อวิบูลย์และคุณแม่พจมาลย์ ตันติเวชยานนท์ ได้เปลี่ยนชื่อกิจการเป็น ‘SuperRich’ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 อย่างเป็นทางการ ถือเป็นออริจินัลแบรนด์แห่งแรกในประเทศไทย
เมื่อเข้าสู่ยุคการบริหารของรุ่นที่ 2 ในปี พ.ศ. 2540 บริษัทฯ ได้ยกระดับบริการ พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทั้งการประกาศอัตราแลกเปลี่ยนบนเว็บไซต์แบบเรียลไทม์ และการขยายสาขาในทำเลที่เข้าถึงง่ายอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “ร้านสะดวกซื้อทางการเงิน” เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย โดยเจาะทำเลสำคัญอย่างสถานีรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า และจุดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ
ต่อมาในช่วงวิกฤตโควิด-19 (ปลายปี 2562 – 2564) ธุรกิจได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวที่หยุดชะงัก ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการคงสาขาที่มีศักยภาพและบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปสู่สังคมไร้เงินสด บริษัทฯ จึงลงทุนจัดตั้ง “บริษัท ซุปเปอร์ริช ดิจิทัล จำกัด” เพื่อนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาพัฒนาโซลูซัน Electronic Payment รองรับบริการ e-Wallet กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์
พร้อมเดินหน้ายุทธศาสตร์ Digital Transformation ผสานกลยุทธ์ Omnichannel เชื่อมบริการช่องทางออนไลน์และออฟไลน์หน้าสาขา ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวก และปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความสามารถในการแข่งขันในยุคสังคมไร้เงินสด

นางสาวณัชชา ปุณณพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด ผู้บริหารรุ่นที่ 3 เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา “ซุปเปอร์ริช 1965 (สีส้ม)” ดำเนินธุรกิจบนหลักความซื่อสัตย์ (Honesty) ความโปร่งใส (Transparency) และความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness) จนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลายล้านคนที่ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ บริษัทมุ่งกลยุทธ์การตลาดเพื่อยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัยและเข้าถึงลูกค้าทุกเจเนอเรชัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ผ่านการเปิดตัวมาสคอต “น้องซุปเปอร์” เพื่อนร่วมทาง (Travel Partner) ซึ่งสะท้อนบุคลิกสนุกสนาน เป็นมิตร และเข้าถึงง่าย พร้อมทำหน้าที่เชื่อมต่อซุปเปอร์ริช 1965 กับลูกค้าในทุกการเดินทาง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนาบริการด้านดิจิทัลเชื่อมต่อทุกช่องทางบริการ ตั้งแต่หน้าสาขาถึงออนไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์การแลกเปลี่ยนเงินที่รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น ผ่าน 3 บริการหลัก ได้แก่

1.Branch Excellence ยกระดับบริการสาขาให้สะดวก รวดเร็ว และมั่นใจในความปลอดภัย ด้วยมาตรฐานสากลและสอดคล้องกับข้อกำกับดูแลทางกฎหมาย (Regulatory Compliance) พร้อมเครือข่ายสาขาครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั่วกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่มากกว่า 40 สาขา ด้วยทีมงานมืออาชีพกว่า 400 คน
โดยมีบริการ Money Exchange (MC) แลกเปลี่ยนเงินตราที่ โปร่งใส เชื่อถือได้ และรวดเร็วขึ้น ด้วยระบบใหม่ที่ช่วยลดขั้นตอน พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมากกว่า 34 สกุลเงิน ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า
และ บริการ Money Transfer (MT) โอนและรับเงินระหว่างประเทศ ร่วมกับเครือข่ายระดับสากลที่เชื่อถือได้ อย่าง SPEEDSEND โดยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และ MoneyGram ครอบคลุมกว่า 200 ประเทศทั่วโลก มอบอัตราแลกเปลี่ยนที่ดี ค่าธรรมเนียมต่ำ และรับเงินได้แบบเรียลไทม์มั่นใจด้วยระบบที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงหรือถูกคิดค่าธรรมเนียมไม่เป็นธรรม

2. พัฒนา SuperRich Application โดยออกแบบและพัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น ที่มาพร้อมกับบริการ Real-time FX Rates ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนได้ทันที, Online Booking จองหลายสกุลเงินล่วงหน้า พร้อมการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-KYC และมารับได้ที่สาขา โดยไม่ต้องเสียเวลารอคิว หรือกังวลเรื่องไม่มีสกุลเงินที่ต้องการ, Branch Locator ค้นหาสาขาที่สะดวกที่สุด ช่วยให้ทุกการเดินทางราบรื่นและมั่นใจว่าจะมีสกุลเงินที่ต้องการพร้อมใช้งานก่อนออกเดินทาง

3. เตรียมออกบริการใหม่ SuperRich Tourist e-Wallet กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยทีม SuperRich Digital ร่วมมือกับ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) พัฒนาบริการ e-Wallet สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลกที่มาเยือนประเทศไทย ช่วยให้ใช้จ่ายผ่าน QR Prompt Pay ได้เหมือนคนไทย ลดความกังวลเรื่องการพกเงินสด พร้อมมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่สะดวก ปลอดภัย และมั่นใจยิ่งขึ้น ซึ่งจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้

นายปิยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า SuperRich Tourist e-Wallet มีแผนพัฒนาให้รองรับการชำระเงินและโอนเงินหลายรูปแบบ เชื่อมต่อกับ QR PromptPay ระบบธนาคารพาณิชย์ และบัตรเครดิต VISA ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้งานได้ทันที รวมถึงบริการโอนเงินระหว่างประเทศ (Money Transfer) และชำระเงินข้ามประเทศผ่าน QR Code (Cross Border QR Payment) เพื่อให้ทำธุรกรรมได้รวดเร็ว ปลอดภัย และสะดวกสบายเทียบเท่า Mobile Banking
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนร่วมมือกับ Bitkub เพื่อเชื่อมต่อการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ากับ e-Wallet ตอบโจทย์สังคมไร้เงินสดอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังดำเนินงานตามมาตรการด้านกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งการปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใต้การตรวจสอบจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อยืนยันถึงความโปร่งใสและความปลอดภัยสูงสุดสำหรับลูกค้าทุกคน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินโครงการ CSR ด้านการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยลงนาม MOU กับ สำนักงานอาชีวศึกษา ภายใต้โครงการ “ความร่วมมือด้านการศึกษา” เพื่อสนับสนุนเยาวชนสายอาชีวศึกษาให้ฝึกงาน พัฒนาความรู้ด้านวิชาชีพ กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (AML) กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และการป้องกันภัยในโลกดิจิทัล พร้อมเสริมทักษะและจรรยาบรรณวิชาชีพ สร้างบุคลากรคุณภาพมาตรฐานสู่สังคม

ปัจจุบัน ซุปเปอร์ริช 1965 (สีส้ม) ให้บริการลูกค้ากว่า 2.4 ล้านรายต่อปี โดย 50% เป็นชาวต่างชาติ 48% เป็นคนไทย และ 2% มาจากการโอนเงินระหว่างประเทศ ทั้งนี้ สกุลเงินยอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ USD, EUR, JPY, HKD และ TWD โดยในปี 2567 ที่ผ่านมามีมูลค่าการแลกเปลี่ยนรวม 94,433 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มเป็นกว่า 98,000 ล้านบาทในปี 2568
บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ผ่านมาสคอต “น้องซุปเปอร์” พร้อมการพัฒนา SuperRich Application และแผนเปิด SuperRich Tourist e-Wallet ภายใน 1–2 ปี จะช่วยเสริมศักยภาพการเติบโต 20% และผลักดันมูลค่าการแลกเปลี่ยนให้ทะลุ 100,000 ล้านบาท ทั้งนี้ก้าวต่อไปของ ซุปเปอร์ริช 1965 (สีส้ม) ไม่ได้เป็นเพียง ‘ร้านแลกเงิน’ แต่คือ ‘เพื่อนร่วมทาง (Travel Partner)’ ที่ทำให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยบริการทางการเงินที่ปลอดภัย ทันสมัย และไร้พรมแดน นายปิยะ กล่าวทิ้งท้าย




