RAM Hospital Group ปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ เดินหน้าสร้าง Healthcare Ecosystem มุ่งสู่เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนอันดับ 2 ของประเทศ
การรีแบรนด์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนโลโก้ แต่คือการปรับบทบาทจาก “โรงพยาบาล” สู่ “แบรนด์สุขภาพ” ที่เข้าใจทุกความต้องการของคนยุคใหม่ เดินกลยุทธ์ Healthcare Ecosystem รับเมกะเทรนด์สุขภาพที่เติบโตแบบไร้ขีดจำกัด
นพ. พิชญ สมบูรณสิน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
“ตลอดระยะเวลา 37 ปีที่ผ่านมา กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหงได้พิสูจน์ความแข็งแกร่ง (Resilience) ผ่านวิกฤตต่างๆ โดยเฉพาะโควิด-19 ด้วยรากฐานที่มั่นคง เราไม่เพียงดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องจากความเป็นเลิศทางการแพทย์ ผ่านศูนย์ความเป็นเลิศ (Centers of Excellence) ที่หลากหลายและทันสมัย เช่น ศูนย์โรคหัวใจ ศูนย์สมองและระบบประสาท และศูนย์ผ่าตัดส่องกล้อง หู คอ จมูก ที่เน้นการรักษาผู้ป่วยแบบครบวงจร”

นอกจากนี้ กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหงยังนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาช่วยยกระดับการรักษา ทั้ง หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด (Robotic Surgery) การผ่าตัดแผลเล็ก (Minimally Invasive Surgery) และบริการ แพทย์ทางไกล (Telemedicine) รวมถึงแอปพลิเคชันและบริการออนไลน์ที่เข้าถึงผู้ป่วยได้โดยตรง เพื่อรองรับการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร นอกเหนือจากการรักษา ยังเน้นการดูแลเชิงป้องกัน (Preventive) และสุขภาพองค์รวม (Wellness) ตามแนวโน้มสุขภาพโลกยุคใหม่
“เรายังขยายเครือข่ายพันธมิตรชั้นนำทั่วประเทศ อาทิ โรงพยาบาลวิภาราม ธนบุรี สินแพทย์ และวิภาวดี ซึ่งล้วนได้รับมาตรฐานสากล เช่น JCI, AACI และ HA ทำให้ระบบส่งต่อผู้ป่วยภายในเครือข่ายมีประสิทธิภาพสูง และพร้อมรองรับผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม และโรงพยาบาลสุขุมวิท” นพ.พิชญ กล่าว

“เป้าหมายของเรามากกว่าแค่การเป็นศูนย์การแพทย์ครบวงจร แต่คือการยกระดับมาตรฐานสาธารณสุขของไทย พร้อมมุ่งเน้นคุณภาพชีวิต (Well-being) ของผู้คน ผ่านการแพทย์เชิงป้องกัน ส่งเสริม และฟื้นฟู ด้วยเครือข่ายโรงพยาบาลพันธมิตร 46 แห่งทั่วประเทศ และเตียงรวมกว่า 7,800 เตียง เราเชื่อมั่นว่าการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องนี้ จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Medical Hub ชั้นนำในภูมิภาค ดึงดูดผู้เข้ารับบริการจากทั่วโลก และสร้างรายได้พร้อมชื่อเสียงให้ประเทศ

ดร. ฤกขจี กาญจนพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหงและบริษัทในเครือ กล่าวว่า
“เรายึดมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้ง มุ่งดูแลประชาชนทุกกลุ่ม ทุกภูมิภาค ครอบคลุมสิทธิหลักประกันสุขภาพ 30 บาท ประกันสังคม และผู้ชำระเงินเอง ภายใต้แนวคิด ‘ตอบทุกความต้องการ เชี่ยวชาญทุกการดูแล’ พร้อมผสมผสานมุมมองทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน”
นอกจากนี้เรายังเดินหน้าลงทุนทั้งแบบ Brownfield, M&A และ Partnership ล่าสุดเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน โรงพยาบาลธนบุรี (Thonburi Hospital Group) ทำให้เครือข่ายโรงพยาบาลรวม 46 แห่งทั่วประเทศ พร้อมเตียงรวม 7,800 เตียง ตอกย้ำความเป็น ผู้นำกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนอันดับ 2 ของไทย และคาดการณ์การเติบโตทั้งเครือในปีนี้สูงถึง 40%
เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมสุขภาพและกลุ่มผู้เข้ารับบริการรุ่นใหม่ กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหงวางกลยุทธ์ “RAM 2.0, The New Era of Ram Hospital Group” ภายใต้ 5 แกนหลัก
1.) Clinical Excellence ยกระดับขีดความสามารถทางการแพทย์ด้วยเทคโนโลยีและบุคลากรชั้นนำ
2.) Network Synergy สร้างความร่วมมือเป็นระบบในเครือข่าย
3.) Asset Optimization เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินทรัพย์
4.) Strategic Expansion เดินหน้าการลงทุนและ M&A ผ่านบริษัทย่อย
5.) ESG Commitment ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย

“การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเรา ตั้งอยู่บนวิสัยทัศน์ชัดเจน เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านสุขภาพ ผ่านความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมทางการแพทย์ เครือข่ายที่ครอบคลุมช่วยให้ผู้เข้ารับบริการเข้าถึงบริการอย่างทั่วถึง ส่งมอบประสบการณ์การรักษาที่รวดเร็ว แม่นยำ และสอดคล้องกับวิถีชีวิตยุคใหม่ นี่คือการสร้าง Healthcare Ecosystem ที่สนับสนุนประเทศไทยก้าวสู่ Medical Hub ระดับภูมิภาค ดึงดูดผู้เข้ารับบริการจากทั่วโลก” ดร. ฤกขจี กล่าว

นายทีโบ สปิทาคิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
“ปัจจุบันผู้ป่วยของเรากว่า 95% เป็นคนไทย แต่ภายใต้การ Rebranding เรามุ่งขยายฐานผู้รับบริการไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ และผู้ป่วยต่างชาติที่ให้ความสำคัญกับ การดูแลเชิงป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ (Preventive & Wellness) รวมถึงรองรับสังคมสูงอายุ เราจึงปรับบริการจาก Sick Care สู่ Health Care ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมการแพทย์ (Digital Health & Innovation) อาทิ AI, Telemedicine, Big Data และอุปกรณ์ตรวจวัดสุขภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวินิจฉัย การรักษา และบริการไร้รอยต่อ”

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมากลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหงเติบโตต่อเนื่อง ทั้งจำนวนโรงพยาบาลเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ การเป็นพันธมิตรกับโรงพยาบาลชั้นนำ และการขยายสู่ระดับภูมิภาค การปรับภาพลักษณ์ครั้งนี้จึงสะท้อน อัตลักษณ์ใหม่ของเรา ในด้าน Caring, Trusted, Expertise และ Collaborative พร้อมรองรับความคาดหวังสูงของผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งคุณภาพการรักษาโรคซับซ้อน เทคโนโลยีทันสมัย และประสบการณ์การเข้ารับบริการที่ดี”
“ผู้บริโภคปัจจุบันต้องการการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ตั้งแต่ป้องกัน ส่งเสริม ไปจนถึงฟื้นฟู การ Rebranding ของเราจึงสื่อสารชัดเจนว่า โรงพยาบาลรามคำแหงพร้อมเป็นสถาบันทางการแพทย์ครบวงจรของภูมิภาค ดูแลสุขภาพทุกมิติของชีวิต ไม่ใช่แค่รักษาโรค” นายทีโบ สรุป




