ธ.ก.ส. เปิดตัว BAAC Matching เชื่อมโยงเกษตรกรและผู้บริโภคโดยตรง ดันสินค้าแกลมเกษตรทั่วประเทศสู่ตลาดดิจิทัลในคลิกเดียว ธ.ก.ส. เดินหน้าหนุนเกษตรไทยสู่ตลาดดิจิทัล เปิดตัว BAAC Matching แพลตฟอร์มดิจิทัลที่จะเชื่อมโยงลูกค้า 

ธ.ก.ส. เกษตรกรรายย่อย วิสาหกิจชุมชนกับผู้บริโภคโดยตรงไว้ในที่เดียว โดยสามารถเลือกซื้อสินค้าแกลมเกษตรที่เต็มไปด้วยคุณภาพจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว เพียงไม่กี่คลิก พร้อมจัดส่งสินค้าถึงหน้าบ้านผู้บริโภคโดยตรง หรือเลือกรับสินค้าได้ที่ Branch Outlet ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ มาร่วมสร้างโอกาสและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร อันนำไปสู่การเติบโตในภาคการเกษตรอย่างมั่นคงและยั่งยืน เปิดตัวแล้ววันนี้ผ่าน https://baacmatching.baac.or.th

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. เดินหน้าสนับสนุนการยกระดับภาคการเกษตรไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เปิดตัวเว็บไซต์ BAAC Matching แพลตฟอร์มดิจิทัล ที่จะเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดตลอดห่วงโซ่ เพื่อสร้างโอกาส สร้างงานและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรรายย่อย วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการเกษตรอย่างยั่งยืน ภายใต้คอนเซปต์ “BAAC Holistic : ก้าวไปด้วยกันสร้างสรรค์อนาคต ภาคการเกษตรไทยอย่างยั่งยืน”

โดย ธ.ก.ส. จะรวบรวมและเชื่อมโยงสินค้าแกลมเกษตรจากลูกค้า ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ พร้อมจัดหมวดสินค้าให้ผู้บริโภค ใช้งานได้ง่ายและสะดวกต่อการเลือกซื้อมาอยู่ในแพลตฟอร์มเดียว เพื่อสร้างช่องทางการตลาดใหม่ให้เกษตรกรและผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อตรงจากร้านค้าผู้ประกอบการลูกค้า ธ.ก.ส. โดยเปิดตัวแล้ววันนี้ผ่าน https://baacmatching.baac.or.th ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้คัดสรรสินค้าครอบคลุม 19 หมวดสินค้า เปิดตัวเฟสแรกนำร่อง 60 รายการ อาทิ

ผลิตภัณฑ์กลุ่มข้าวพร้อมทาน “อุ่นอิ่ม” และอาหารแปรรูปจากเครือข่ายสหกรณ์ลูกค้า ธ.ก.ส. พร้อมยกระดับสู่ตลาดดิจิทัล ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพจากเครือข่ายลูกค้าและสหกรณ์ทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิดยกระดับสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดดิจิทัล ผ่านระบบ BAAC Matching โดยหนึ่งในกลุ่มสินค้าที่ได้รับความสนใจคือผลิตภัณฑ์ “อุ่นอิ่ม” ข้าวพร้อมทานที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ สามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิปกติได้นานถึง 18 เดือน และเพียงนำเข้าไมโครเวฟ 60 วินาที ก็หอม อร่อย พร้อมรับประทานเหมือนข้าวหุงใหม่

“อุ่นอิ่ม” มีให้เลือกถึง 5 ประเภท ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้องหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวหอมมะลิแดง และข้าวหอมนิล ผลิตโดยสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) จากหลายจังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ และนครปฐม สะท้อนศักยภาพของเกษตรกรไทยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรสู่ระดับพรีเมียม

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่ม อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาทิ สุกี้เส้นมะพร้าวพร้อมทาน ผัดไทยพร้อมปรุง และก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาเส้นมะพร้าวพร้อมทาน ตราชฎาไท จากวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารนิศานาฏ จังหวัดอยุธยา ที่ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพและผ่านกระบวนการที่ได้มาตรฐาน จนกลายเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูปที่สะดวก พกพาง่าย เพียงเติมน้ำร้อนก็สามารถรับประทานได้ทันที

สำหรับกลุ่ม เครื่องดื่มและอาหารทานเล่น มีผลิตภัณฑ์โดดเด่นอย่าง ขนมข้าวกล้องอบกรอบแบรนด์ “ซัมธิงไรซ์” ที่ผลิตจากข้าวไรซ์เบอร์รี ผ่านกระบวนการแปรรูปมาตรฐาน กรอบ อร่อย เคี้ยวเพลิน หลากหลายรสชาติ และ น้ำสับปะรดกระป๋องแบรนด์ “Sure Juice” จากสกต. ราชบุรี ผลิตจากสับปะรดแท้ 100% เก็บรักษาความสดใหม่ไว้ได้นาน

ธ.ก.ส. ยังได้นำ เทคโนโลยี AI และ Data Analytics มาช่วยในการจัดรายการสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ด้วยระบบจัดหมวด สินค้าขายดี (Best Seller) และ สินค้าแนะนำ (Recommend Product) พร้อมออกแบบเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งานได้สะดวกบนทุกอุปกรณ์ ทั้งโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์

ในระยะต่อไป ธ.ก.ส. เตรียมขยายผลการจำหน่ายสินค้าผ่านระบบ BAAC Matching ให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อหรือรับสินค้าได้ที่ Branch Outlet ณ สาขา ธ.ก.ส. หรือ สโมสรพนักงาน ธ.ก.ส. กรุงเทพฯ เพื่อสร้างช่องทางการตลาดที่ครบวงจร และยกระดับเกษตรไทยสู่ตลาดดิจิทัลอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ธ.ก.ส. พร้อมสนับสนุนการ สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิต ด้วยการยกระดับผลิตภัณฑ์และการสร้างภาพลักษณ์อันโดดเด่น ทันสมัย ผ่านการ Repackage และ Redesign โดยตั้งเป้าหมายสินค้าที่ต้องดำเนินการเบื้องต้น จังหวัดละ 3 ประเภท รวม 231 รายการ

โครงการนี้มุ่งสนับสนุนการเติบโตของเกษตรกร ทั้งเกษตรกรรุ่นใหม่ เกษตรกรหัวขบวน และโดยเฉพาะเกษตรกรกลุ่มเปราะบาง ให้มีศักยภาพในการประกอบอาชีพและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

ธ.ก.ส. ยังให้การสนับสนุนการพัฒนาบรรจุภัณฑ์แก่สินค้าที่ได้รับเครื่องหมาย A-Product และสินค้า Essence Glam พร้อมเดินหน้าผลักดันการสร้าง สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ที่สามารถจำหน่ายได้ทั้งในและต่างประเทศ

แนวทางนี้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ และสอดรับกับการยกระดับการประกอบอาชีพของเกษตรกรทุกมิติ ตามแนวทางแกนกลางการเกษตร (Essence of Agriculture) รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น เสริมสร้างการเติบโตของภาคเกษตรไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน